NIO

credit : www.nio.com
NIO ก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าที่น่าจับตามองของจีน ก่อตั้งโดย William Li ซึ่งได้เริ่มต้นจากการทำ Startup ด้านอินเทอร์เน็ต และตามด้วยก่อตั้งบริษัท Bitauto Holdings Limited ที่ให้บริการข้อมูลด้านรถยนต์ผ่านเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน
สำหรับในช่วงปี 2014 William Li ได้หันมาเริ่มจับธุรกิจรถยนต์สปอร์ตไฟฟ้าในปีภายใต้บริษัท NIO Inc. ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จากกระแสรถ EV ที่กำลังมาแรงยิ่งทำให้นักลงทุนและกองทุนมาร่วมเป็นพันธมิตร เช่น Baillie Gifford, BlackRock, Temasek และ Tencent ใช้เวลาเพียง 4 ปี ก็สามารถพา NIO Inc. เข้าตลาดหลักทรัพย์ NYSE ได้สำเร็จ
ถ้าหากจะพูดถึงจุดเด่นของ NIO ก็อาจจะเป็นเรื่องราวของบริษัทที่ต้องการเติบโตได้เหมือน Tesla อย่างรวดเร็วและจากเรื่องราวนี้เอง ทำให้นับตั้งแต่ทางบริษัทสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของ Nasdaq ได้เมื่อปี 2018 ทำให้ตัวมูลค่าหุ้นของ NIO ก็เติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนมูลค่ากิจการนั้นมหาศาลนั่นเอง
ในส่วนของรถยนต์ที่ได้ทำการตลาดปัจจุบันมี 3 รุ่นด้วยกัน คือ EC6, ES6 กับ ES8 เป็น SUV ที่มีความแตกต่างกันในเรื่องของขนาด Mid-Size และ Full-Size นอกจากนี้ NIO ยังมี EP9 รถสปอร์ตไฟฟ้าล้วนสมรรถนะสูง รวมไปถึงการส่งทีมลงแข่งรายการ Formula E เพื่อเป็นการสร้างแบรนด์ด้วย
สำหรับในประเทศไทย NIO ยังไม่มีความชัดเจน แต่ว่าในปัจจุบันได้มีแผนการทำ Marketing ในต่างประเทศมากขึ้น และล่าสุดยังได้มีการเปิดตัว ET7 รถยนต์ไฟฟ้าล้วนแบบ Sedan รวมไปถึงเทคโนโลยีระบบรถยนต์ไร้คนขับประสิทธิภาพสูง และการสลับแบตเตอรี่ในกรณีที่แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้าเริ่มเสื่อมสภาพด้วย
Geely

credit : global.geely.com
สำหรับแบรนด์รถยนต์ดังเดิมอย่าง Geely โดยมีการก่อตั้งเมื่อปี 1997 และผลิตรถยนต์รุ่นแรกออกมาในปี 1998 Geely เป็นบริษัทผลิตรถยนต์เอกชนถือหุ้นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2001 ทั้งจากนั้นไม่นานยังเริ่มส่งออกรถยนต์ออกไปทำตลาดในต่างประเทศด้วย
ในส่วนของ Geely จะเน้นไปที่การสร้างรถยนต์ที่เน้นความปลอดภัยสูง ซึ่งช่วงนั้นทางค่ายได้เริ่มริเริ่มโปรเจคต์การซื้อกิจการ Volvo และสุดท้ายในปี 2010 ก็เป็นผลสำเร็จ ทำให้ทางค่ายเป็นผู้ผลิตรถยนต์จีนรายแรกที่เป็นเจ้าของแบรนด์รถยนต์จากต่างประเทศ ไม่ใช่แค่รับผลิต และจำหน่ายรถยนต์ของต่างประเทศอีกด้วย
นอกจากนี้ในปี 2017 ทาง Geely ก็ยังได้เข้าซื้อกิจการ Proton รถยนต์ของมาเลเซีย เพื่อบุกตลาดรถยนต์พวงมาลัยขวา ซึ่งการซื้อครั้งนั้นได้แบรนด์ Lotus จากอังกฤษมาด้วย สำหรับในปัจจุบัน Geely ไม่ได้ทำตลาดในประเทศไทย แต่ก็มี Volvo ที่ผลิตจากโรงงานมาเลเซียเข้ามาทำตลาดแทน ที่สำคัญ Geely ยังต้องการบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าและเทคโนโลยีใหม่ในรถยนต์มากขึ้น ถึงขั้นมีการตั้งเป้าหมายจำหน่ายแต่รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต รวมไปถึงการเปิดตัวแบรนด์ใหม่ที่เน้นทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ
Chery

credit : www.cheryinternational.com
สำหรับกระแสข่าวการกลับมาอีกครั้งของแบรนด์รถยนต์เชอรี่ ซึ่งเป็นแบรนด์รถยนต์ชั้นนำจากเมืองจีนเมื่อ10 ปีที่แล้ว ได้กลายเป็นกระแสขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมีการจับภาพรถยนต์ไฟฟ้าของเชอรี่กำลังวิ่งทดสอบในประเทศไทย แต่ภายหลังทราบว่าเป็นการวิ่งทดสอบระบบของทางกลุ่ม การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย(ปตท.) ซึ่งยังไม่มีคำยืนยันหรือปฏิเสธอย่างเป็นทางการเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างเชอรี่กับปตท. ทำให้เป็นที่ลุ้นกันว่าเชอร์รี่นั้นจะได้เข้ามาทำการตลาดในไทยหรือไม่อย่างไร
ในส่วนของเชอร์รี่นั้นก็มีจุดเด่นในด้านเครื่องยนต์ที่ติดอันดับ Top 10 ของจีนถึง 6 โมเดลด้วยกัน และในแง่ของเทคโนโลยีอัจฉริยะ Chery ก็ได้มีการร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับ Huawei และบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำระดับโลกรายอื่น ๆ เพื่อร่วมกันพัฒนายานยนต์อัจฉริยะที่พร้อมรับกับโลกอนาคต ปัจจุบันได้มีการเปิดตัวเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L2.5 ในตลาดแล้ว และน่าจะพัฒนาจนได้เป็นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติระดับ L4 ได้ในปี 2025 และในแง่ของเทคโนโลยีพลังงานใหม่ Chery ได้เริ่มวิจัยและพัฒนามาตั้งแต่ปี 1999 และเป็นแบรนด์จีนเจ้าแรกที่เปิดตัวรถไฟฟ้าขนาดเล็ก (Little Ant) อย่างรุ่น EQ1 ที่มีตัวรถทำมาจากอะลูมิเนียมน้ำหนักเบา
ส่วนการคาดการณ์ว่ารถยนต์เชอร์รี่ที่จะมาเปิดตัวในไทยนั้นน่าจะเป็น Chery Tiggo Series เอสยูวีรุ่นเด่นของค่าย และรุ่นที่คาดว่าจะนำมาขายนั่นคือ Chery Tiggo 7 PRO เอสยูวีระดับเดียวกับ MG ZS, Toyota Corolla Cross, Mazda CX-30 หรูสง่าสไตล์ เชอรี่ มาพร้อมกับความเท่กระจังหน้าลายเอกลักษณ์พร้อมไฟหน้า Martrix LED และไฟท้าย LED แนวยาว ที่มีการออกแบบคล้าย ๆ Geely พร้อมหลังคาพาโนรามิกซันรูฟขนาดใหญ่ และอีกรุ่น Chery Tiggo PRO 8 เอสยูวีใหญ่ 7 ที่นั่ง เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบ 1.6 ลิตร 197 แรงม้า พร้อมความหรูตามสไตล์ เชอรี่ ด้วยไฟแอมเบี่ยนไลท์ 7 สี และเครื่องปรับอากาศแยกส่วน 3 โซน ซึ่งเรามาดูกันว่ารุ่นที่กล่าวมานั้นจะมีการเปิดตัวในไทยปีหน้าหรือไม่ ต้องติดตามค่ะ
DFSK

credit : www.dfsk.com
แบรนด์ใหม่ล่าสุดที่เพิ่งเข้ามาเปิดตัวในไทย แต่แท้ที่จริงแล้ว DFSK ที่จีนเป็นแบรนด์ในเครือของ ตงฟง มอเตอร์ ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับท็อป 5 ของประเทศจีนที่เก่าแก่ ซึ่งอดีต ตงฟง เคยทำตลาดรถยนต์ปิกอัพขนาดเล็กในประเทศไทยด้วย แต่ภายหลังได้มีการยุติการขายไป เหลือไว้เพียงส่วนของการบริการหลังการขายเท่านั้น
สำหรับรถยนต์รุ่นแรกที่จำหน่ายของทางค่ายก็คือ Glory iAuto ซึ่งเป็นรถยนต์แบบครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่ง ที่มีการนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย เปิดตัวด้วยราคาแนะนำเพียง 899,000 บาท ซึ่งทำให้เป็นที่น่าจับตามองเป็นพิเศษเนื่องจากเป็นการนำเข้าจากประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งไม่เสียภาษีนำเข้าภายใต้เขตการค้าเสรีอาเซียน และยังมีการปรับดีไซน์ให้ดูมีความทันสมัย พร้อมด้วยเทคโนโลยีต่างๆ ในราคาเข้าถึงง่าย มีความคุ้มค่าสูง สามารถสู้กับคู่แข่งในตลาดได้
ทางค่ายยังได้มีการเพิ่มศูนย์บริการในไทยจากเดิมที่มีอยู่ 8 แห่ง เตรียมขยายเป็น 12 แห่งทั่วประเทศในปีหน้า รวมไปถึงการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยรถยนต์ไฟฟ้าที่จะตามมาในปีถัดไป ทำให้เราจะได้เห็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในไทยคึกคักกันมากขึ้นด้วย