5. Suzuki XL7
ถ้าถามว่าจะซื้อรถครอบครัวรุ่นไหนดี เราขอแนะนำ Suzuki XL7 เพราะคันนี้เป็นรถครอบครัว 7 ที่นั่งที่เพิ่งปรับปรุงมาหมาด ๆ เมื่อขึ้นชื่อว่าเป็นรถแบรนด์ซูซูกิแล้ว เรื่องประหยัดต้องยกให้เขาเลยล่ะ ล่าสุดเปลี่ยนเป็นขุมพลังไฮบริด ประหยัดน้ำมันมากกว่าเดิม แถมอัดออปชันให้ไม่อั้น เรียกได้ว่าเป็นแบรนด์รถที่คุ้มค่าสมชื่อ ที่สำคัญ รุ่นนี้มีการออกแบบตามหลักอากาศพลศาสตร์ ทำให้ตัวรถมีความลู่ลม ปราดเปรียว และขับฉิวมากขึ้นด้วย เทียบกับ Suzuki Ertiga แล้ว โดยรวมถือว่าขับดีกว่า
ขนาดเครื่องยนต์: 1.5 ลิตร (1,462 ซีซี) 4 สูบ 16 วาล์ว
พละกำลัง: 105 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 138 นิวตันเมตร
- ราคา Suzuki XL7: 799,000 บาท
- ราคา Suzuki XL7 มือสอง*: เริ่มต้น 419,000 บาท
*ราคา Suzuki XL7 มือสองบน one2car อาจมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่สภาพรถ ระยะทางที่วิ่ง และอุปกรณ์เสริม
สามารถตรวจสอบราคาล่าสุดได้ที่ Suzuki XL7 มือสอง

จุดเด่นของ Suzuki XL7
- ห้องโดยสารกว้าง โปร่งโล่ง มีกระจกเบาะแถว 2 บานใหญ่ เห็นวิวชัดเจน ไม่มึนหัว
- ให้ออปชันเยอะมาก แถมมีช่องจ่ายไฟ 12 Volt ให้มาถึง 3 จุด
- มีระบบ NVH ช่วยลดเสียงรบกวนภายนอกและแรงสั่นสะเทือน
- ออกแบบเหล็กกันโคลงด้านหน้าให้ทรงตัวได้ดีเยี่ยม
- ช่วงล่างทำจากเหล็ก High Tensile มีความแข็งแรงสูง
- มีช่องวางแก้วน้ำพร้อมแอร์เป่า ช่วยให้เครื่องดื่มเย็นอยู่ตลอดเวลา
- มีการติดตั้งกล้องบันทึกหน้ารถมาจากโรงงาน สามารถเปิดดูภาพที่บันทึกผ่านหน้าจอกลางได้
- ระยะห่างจากพื้นสูง 200 มม. สามารถขับลุยทางขรุขระ ลุยน้ำได้สบาย
- ราคาถูกที่สุดเมื่อเทียบกับตัวท็อปของแต่ละค่าย แต่ได้แรงม้ากับแรงบิดพอ ๆ กัน
จุดด้อยของ Suzuki XL7
- ต้องใช้รอบเครื่องยนต์สูงเมื่อขับขี่ทางไกล เพราะเป็นเกียร์อัตโนมัติแบบ 4 สปีด ในขณะที่คู่แข่งใช้เกียร์ CVT 7 สปีด
- หากเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงจะมีอาการท้ายปัดหรือโคลงเคลงเล็กน้อย
- หากขับลากรอบหรือเค้นกำลัง เสียงของเครื่องยนต์จะเข้ามาในห้องโดยสารทันที
6. Mitsubishi Pajero Sport
รู้หรือไม่? Mitsubishi Pajero Sport เคยได้รับ รางวัลรถ PPV ที่คุ้มค่าที่สุด (The Most Valueable PPV) จาก Car of the year Thailand ด้วยนะ อีกทั้งยังประหยัดน้ำมันมากถึง 15.2 กม. ต่อลิตร และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเราควรซื้อรถครอบครัว 7 ที่นั่งรุ่นนี้นั่นเอง
ขนาดเครื่องยนต์: 2.4 ลิตร
พละกำลัง: 181 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 430 นิวตันเมตร
- ราคา Mitsubishi Pajero Sport: เริ่มต้น 1,389,000 – 1,689,000 บาท
- ราคา Mitsubishi Pajero Sport มือสอง*: เริ่มต้น 899,000 บาท
*ราคา Mitsubishi Pajero Sport มือสองโฉมก่อนหน้าบน one2car อาจมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่สภาพรถ ระยะทางที่วิ่ง และอุปกรณ์เสริม
สามารถตรวจสอบราคาล่าสุดได้ที่ Mitsubishi Pajero Sport มือสอง

จุดเด่นของ Mitsubishi Pajero Sport
- เครื่องยนต์ตอบสนองได้ดีเยี่ยม เพราะมีระบบวาล์วแปรผัน MIVEC ช่วยให้เครื่องยนต์มีแรงบิดดีขึ้นในรอบต่ำ และยังเผาไหม้หมดจด ซึ่งช่วยลดมลพิษและรักษาสิ่งแวดล้อม
- มีการเพิ่มแรงม้าด้วยขุมพลังของ VG Turbo และอินเตอร์คูลเลอร์ ทำให้เครื่องยนต์มีกำลังสูงทั้งในรอบปานกลางและรอบสูง ตอบสนองทันใจ
- ระบบอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยอัจฉริยะ ทัยสมัย ตัวช่วยในการขับขี่เยอะมาก
- ลุยได้ทุกสภาพถนน ตอบโจทย์การใช้งานแบบออฟโรด โดยมีทั้งหมด 4 โหมด ได้แก่ Gravel, Mud/Snow, Sand และ Rock
- ห้องโดยสารกว้างขวางมากพอสำหรับการใช้สอย พื้นที่บริเวณหัวเข่าและข้อศอกไม่อึดอัด
- มีระบบความบันเทิงที่ช่วยให้ผู้โดยสารเพลิดเพลินตลอดการเดินทาง
- ภายในมีการออกแบบให้ผู้โดยสารนั่งสบาย พร้อมวัสดุบุนุ่มบริเวณมือจับประตูและคอนโซลกลาง
จุดด้อยของ Mitsubishi Pajero Sport
- พวงมาลัยค่อนข้างหนัก ขับในเมืองอาจทำให้บางคนเมื่อยได้
7. Ford Everest
ในบรรดารถครอบครัว PPV 7 ที่นั่ง Ford Everest ถือเป็นรุ่นที่ซีซีน้อยที่สุด แต่กลับมีแรงม้าและแรงบิดสูงที่สุด (เมื่อเทียบกับตัวท็อปในทุกรุ่น) บวกกับการทำงานร่วมกับเกียร์ 10 สปีด ทำให้รถครอบครัวคันนี้เหมาะกับการวิ่งทางไกลที่สุดไปด้วยนั่นเอง เพราะช่วยให้เครื่องยนต์มีรอบเครื่องที่ต่ำ และไม่ต้องเค้นรอบเครื่องมากนัก ต่อเกียร์ได้นิ่มนวล เกียร์เปลี่ยนไว อีกทั้งยังเหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบวิ่งเส้นทางออฟโรด ใครสายลุย สายแคมป์ปิง ชอบขับขึ้นเขา จัดคันนี้คุ้มค่าสุดแล้ว!
ขนาดเครื่องยนต์: 2.0 ลิตร
พละกำลัง: 210 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 500 นิวตันเมตร (รุ่นท็อป)
- ราคา Ford Everest: 1,392,000 – 2,279,000 บาท
- ราคา Ford Everest มือสอง*: เริ่มต้น 969,000 บาท
*ราคา Ford Everest มือสองหน้าตาโฉมปี 2022 บน one2car อาจมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่สภาพรถ ระยะทางที่วิ่ง และอุปกรณ์เสริม
สามารถตรวจสอบราคาล่าสุดได้ที่ Ford Everest มือสอง

จุดเด่นของ Ford Everest
- ช่วงล่างดีที่สุดในกลุ่ม
- พละกำลังของเครื่องยนต์มากที่สุดในรุ่น
- ดีไซน์แข็งแกร่ง บึกบึน ดุดัน
- ออปชันและเทคโนโลยีต่าง ๆ ครอบคลุมทุกการใช้งาน
- ห้องโดยสารกว้างขวาง ใช้วัสดุตกแต่งที่ให้ความรู้สึกหรูหรา และยังติดตั้งไฟสร้างบรรยากาศในทุกส่วนที่จะทำให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- การปรับแต่งโช้กอัปใหม่และเพิ่มจุดซีลกันเสียงเข้า ให้ความรู้สึกที่นุ่ม เงียบ เข้าโค้งมั่นใจ น้ำหนักของพวงมาลัยหนักขึ้นเล็กน้อย ควบคุมตัวรถได้ง่ายเมื่อวิ่งด้วยความเร็วสูง
- ลุยได้ทุกสภาพถนน ลองขับลงน้ำลึกประมาณ 70 ซม. สามารถขับผ่านไปได้สบายมาก เรียกได้ว่ารองรับการบุกตะลุยพื้นที่ทุรกันดารได้อย่างสมบุกสมบัน
- ระบบขับเคลื่อน 4H โหมดโคลน/ร่อง ทำงานได้ดี ไม่มีอาการลื่นไถล
- มีกล้องหน้าที่สามารถดูเส้นทางด้านหน้าผ่านกล้องได้ เพราะหัวรถฟอร์ดจะเชิดขึ้นนิดหน่อย บางคนอาจมองลำบาก
- มีกล้องรอบคัน ดูภาพได้ 360 องศา
- ฝาท้ายเปิดได้สูงมาก สูง 175 ซม. ศีรษะไม่ชน ใช้เท้าเตะใต้ท้องรถก็สามารถเปิดฝาท้ายได้เลย
- ราคาคุ้มค่ากับรถ โดยเฉพาะสายขึ้นเขาลงห้วย คันนี้ตอบโจทย์มากที่สุด
จุดด้อยของ Ford Everest
- ไม่สามารถปรับสายคาดเบลต์ขึ้นลงได้
- การขึ้นลงเบาะแถว 3 ค่อนข้างยาก เพราะเบาะหลังเลื่อนหน้าหลังได้อย่างเดียว ไม่สามารถพับม้วนได้
- ไม่มีปุ่มลัดระบบ Break Hold มาให้ ต้องกดที่หน้าจอตรงกลาง ซึ่งใช้งานไม่ค่อยสะดวกนัก
- อัตราการกินน้ำมันสูงกว่าคู่แข่งในระดับเดียวกัน
8. รถครอบครัว Kia Carnival
ใครกำลังมองหารถครอบครัวประตูสไลด์ 11 ที่นั่ง ราคาคุ้มค่า ดีไซน์น่าใช้ นาทีนี้ต้องยกให้ Kia Carnival เลย นอกจากจะเป็นรถอเนกประสงค์ MPV ที่หน้าตาไม่เหมือนใคร ออปชันและสมรรถนะยังถือว่าดีและทันสมัยสุด ๆ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย แถมยังมีโหมดการขับขี่ให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ Normal Mode, ECO Mode, Sport Mode และ Smart Mode ใครกำลังหารถครอบครัวอยู่ บอกเลยว่ารุ่นนี้มาแรงมาก! ยอดขายดีวันดีคืนเลยล่ะ
ขนาดเครื่องยนต์: 2.2 ลิตร
พละกำลัง: 202 แรงม้า แรงบิดสูงสุดที่ 45 กิโลกรัม-เมตร
- ราคา Kia Carnival: เริ่มต้น 1,892,000 – 2,990,000 บาท
- ราคา Kia Carnival มือสอง*: เริ่มต้น 1,390,000 บาท
*ราคา Kia Carnival มือสองรุ่น LX หน้าตาโฉมปี 2020 บน one2car อาจมีการปรับเปลี่ยน ขึ้นอยู่สภาพรถ ระยะทางที่วิ่ง และอุปกรณ์เสริม
สามารถตรวจสอบราคาล่าสุดได้ที่ Kia Carnival มือสอง

จุดเด่นของ Kia Carnival
- เหมาะกับครอบครัวใหญ่ ไปไหนมาไหนได้ทั้งบ้านด้วยรถคันเดียว
- วิ่งดีแม้ความเร็วสูง ช่วงล่างแน่นหนึบ! เกาะถนนดี ไม่มีอาการโคลงเมื่อเข้าโค้ง
- ภายในตกแต่งได้สวยงาม แฝงความมินิมัลตามฉบับรถเกาหลีใต้
- พื้นที่ห้องโดยสารกว้าง วางขาได้สบาย ไม่อึดอัด
- เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น แค่ยืนใกล้รถพร้อมกับกุญแจอัจฉริยะ Smart Key ประตูจะเปิดโดยอัตโนมัติ และสามารถปิดเองเมื่อเดินห่างออกจากตัวรถ
- มีระบบ One-Touch Remote เพียงแค่กดปุ่มบนรีโมตค้างไว้ ประตูสไลด์ไฟฟ้าทั้งสองบานและประตูท้ายไฟฟ้าจะเปิดพร้อมกันโดยอัตโนมัติ สะดวกต่อการขึ้น-ลงและขนสัมภาระ
- เทคโนโลยีความปลอดภัยล้ำสมัย ทำงานได้รวดเร็ว
- ระบบความบันเทิงตอบโจทย์การเป็นรถครอบครัว
- ฟังก์ชันการใช้งานเบาะปรับเปลี่ยนได้หลากหลาย
- เบาะโดยสารแถวสุดท้ายสามารถปรับพับเรียบได้สนิท ช่วยเพิ่มพื้นที่จัดเก็บสัมภาระได้อย่างลงตัว
- มีการติดตั้งมือจับบริเวณขอบประตูเพื่อให้ผู้โดยสารสามารถก้าวขึ้น-ลงรถได้ง่ายขึ้น และความสูงจากพื้นต่ำ
- ประหยัดน้ำมัน
จุดด้อยของ Kia Carnival
- ราคาสูงกว่า Hyundai Staria แม้เครื่องยนต์จะมีขนาด 2.2 ลิตรเท่ากัน และมี 11 ที่นั่งเท่ากัน
- ความสบายของเบาะนั่งยังเป็นรองคู่แข่ง
- ค่าซ่อมบำรุงสูงกว่ารถญี่ปุ่น
- ศูนย์บริการยังมีน้อย ถ้าไม่ได้อยู่กรุงเทพฯ หรือตามหัวเมืองใหญ่ของภาคต่าง ๆ อาจต้องขับไปที่ศูนย์ไกลมาก