รถยนต์นั่งไทย ปี 2024 ซบเซาสุดรอบ 15 ปี ส่วนหนึ่งเป็นไปตามวัฏจักรตลาด แต่มือสองขายดีหลังราคาตก 15% มอเตอร์ไซค์อีวีเร่งเครื่องแรง มาร์เก็ตแชร์ขยับแตะ 1% ตลาดรวม ‘ฟาสต์ ออโต โชว์’ ร่วมสตาร์ทเครื่องกระตุ้นตลาดช่วงโลว์ซีซั่น
เริ่มแล้วกับงานฟาสต์ ออโต โชว์ ไทยแลนด์ 2024 (Fast Auto Show Thailand 2024) วันที่ 3-7 ก.ค. นี้ เวลา 10.00-21.00 น. ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ EH102-104
อ่าน : “ฟาสต์ ออโต โชว์ 2024” สตาร์ทกระหึ่ม เริ่มแล้ว 3-7 กรกฎาคมนี้ 5 วันจัดเต็ม ไบเทค บางนา
งานอีเวนต์ใหญ่สำหรับกระตุ้นตลาดรถยนต์ไทยช่วงกลางปี ซึ่งนับเป็นช่วงโลว์ซีซั่นรอบนี้ เป็นการจัดงานครั้งที่ 12 มาในคอนเซ็ปต์งาน ‘รถใหม่ป้ายแดง รถไฟฟ้ามีให้ลอง รถมือสองมีรับประกัน’ พร้อมเสนอเซกเมนต์ใหม่ มอเตอร์ไซค์อีวี เพิ่มเติมกับรถยนต์ป้ายแดง, รถยนต์มือสอง, รถยนต์อีวี ที่ยังคงแคมเปญการตลาดพิเศษเฉพาะในงานเช่นเคย
สัดส่วนพื้นที่จัดแสดง รถป้ายแดง 70% รถยนต์มือสอง 30% ประเมินยอดจองตลอดการจัดงานจากมุมมองของผู้บริหารแบรนด์รถยนต์ต่าง ๆ ที่มาออกบูธ อยู่ที่ประมาณ 1,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์มือสองกว่า 100 คัน
แทรฟฟิกที่เข้ามางานจะมีเซกเมนต์รถยนต์ที่สนใจชัดเจน หลังเริ่มรับรู้โปรดักต์ในตลาดรถยนต์อีวีเพื่อประกอบการตัดสินใจมาได้สักระยะ ซึ่งทำให้ปีนี้แบรนด์ต่าง ๆ ยังจะสามารถประเมินความต้องการซื้อของผู้บริโภคในตลาดได้ชัดเจนมากขึ้นอีกด้วย
โดยภายในงาน Marketeer ยังได้พูดคุยกับผู้บริหารแบรนด์ต่าง ๆ เกี่ยวกับสถานการณ์ยานยนต์ไทย ตลอดปี 2024
คุณวัลลภ เฉลิมวงศาเวช กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮุนได โมบิลิตี้ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า กระบวนการเปลี่ยนผ่านดีลเลอร์และผู้ให้บริการหลังการขายในไทยสู่พาร์ตเนอร์ หลังบริษัทแม่ (เกาหลีใต้) ลงมาทำตลาดเองเต็มตัวตั้งแต่ 1 เม.ย. 2023 ยังเป็นไปด้วยดี
ปี 2024 บริษัทมีพาร์ตเนอร์ทั้งหมด 35 แห่ง เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ตั้งเป้าเปิดเพิ่มอีก 5-6 แห่งภายในปีนี้ แต่คงระดับการลงทุนที่ไม่ให้เสี่ยงมากสำหรับพาร์ตเนอร์
เนื่องจากปี 2024 ตลาดรถยนต์นั่งไทยซบเซาสุดในรอบ 15 ปี จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพของประเทศที่ยังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ก็ตามสาเหตุส่วนหนึ่งยังมาจากการถึงรอบตกดิ่งของตลาดโดยธรรมชาติ ซึ่งอยู่ที่ประมาณภายใน 12-15 ปี หลังจากนั้นตลาดก็จะเริ่มกลับมาฟื้นตัวจากมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของภาครัฐ
อย่างรอบล่าสุดปี 2009 ตลาดรถยนต์นั่งก็ซบเซาหนักสุดในรอบ 15 ปี ยอดขายอยู่ที่ 615,000 คัน ก่อนนโยบายสนับสนุนต่าง ๆ จากรัฐจะทำให้ยอดเพิ่มขึ้นมาเป็น 1.4 ล้านคันในปี 2012
บริษัทคาดการณ์ยอดขายรถยนต์นั่งปี 2024 ประมาณกว่า 600,000 คัน จาก 750,000 คันในปี 2023 และ 850,000 คันในปี 2022
ส่วนรถยนต์ทำตลาดของบริษัท เตรียมเปิดตัวกลุ่มเอสยูวีรุ่นใหม่ในงานมอเตอร์เอ็กซ์โป 2024 ปลายปีนี้ ขณะที่แฟลกชิปกลุ่มอีวีอย่าง Hyundai IONIQ 5 และ 6 ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงานมอเตอร์โชว์ต้นปีที่ผ่านมา ยอดจองประสบความสำเร็จตามเป้า
คุณสายณ สุนทรส ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี (AJA) หรือ เอเจ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีมอเตอร์ไซค์อีวีรวม 15 รุ่น นับตั้งแต่เปิดตัวแบรนด์ ‘AJ EV’ เมื่อ 4 ปีที่แล้ว และเตรียมเปิดตัวแฟลกชิปรุ่นใหม่เดือน ส.ค. นี้ ยอดขายรวมถึงปัจจุบันประมาณ 20,000 คัน โดยทุกคันสามารถจดทะเบียนและใช้งานได้จริงถูกต้องตามกฎหมาย
4 ปีที่แล้วบริษัทเริ่มต้นเพราะเห็นมอเตอร์ไซค์อีวีประสบความสำเร็จในประเทศจีน จึงประเมินว่าตลาดจะขยายตัวเข้ามายังไทยในอีกไม่นาน
บริษัทวางให้กลุ่มธุรกิจมอเตอร์ไซค์อีวีเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับครัวเรือนชนิดหนึ่ง ซึ่งทำให้การประเมินอัตราการเติบโตของตลาดจากยอดจดทะเบียนอาจคลาดเคลื่อนไปบ้าง เนื่องจากมีบางกลุ่มซื้อไว้สำหรับใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป
อย่างไรก็ตาม 4 ปีที่ผ่านมา ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวี มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จากโปรดักต์ที่ถูกมองจากผู้บริโภคว่าเป็นของเล่น และมีผู้เล่นที่ต้องยอมแพ้จากการพยายามเข้ามาสร้างการรับรู้ในตลาดหลายราย
แต่ปี 2023-2024 มาตรฐานด้านการผลิตและประสบการณ์การใช้งานที่ยกระดับขึ้น ทำให้ตลาดมอเตอร์ไซค์อีวีเติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด โดยปี 2019 (ก่อนโควิด-19) ยอดจดทะเบียนใหม่มอเตอร์ไซค์สันดาปประมาณ 2 ล้านคัน ก่อนตกลงจากวิกฤตโรคระบาด จนมาปี 2023 อยู่ที่ประมาณ 1.6 ล้านคัน ต่างจากเซกเมนต์มอเตอร์ไซค์อีวีที่เริ่มมีกราฟเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
บริษัทประเมินว่าปี 2024 มอเตอร์ไซค์อีวีจะเติบโตจนมีมาร์เก็ตแชร์ในสัดส่วน 1% ของตลาดมอเตอร์ไซค์สำเร็จ และขยายตัวแบบก้าวกระโดดหลังจากนี้ จากการที่ผู้บริโภคเริ่มรับรู้โปรดักต์ ไม่ต่างจากรถยนต์อีวีที่ดีดตัวขึ้นอย่างมากในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับปี 2019 (ก่อนโควิด)
คุณศิลา ปัญญาตระกูลชัย ผู้บริหารเต็นท์รถมือสอง ดา ศรีนครินทร์ กล่าวว่า ตลาดรถยนต์นั่งมือสอง เซกเมนต์อีวียังคงอยู่ในความกังวลของผู้บริโภคจากสงครามราคาที่ดุเดือดของตลาดมือ 1 ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ บริษัทประกันภัยที่ต้องรับความเสี่ยงจากทุนประกันที่สูงเกินกว่าราคารถใหม่ที่ลดลงต่อเนื่อง
ภาพรวมตลาดรถยนต์มือสองไทย ปี 2024 ราคามีการปรับลง 10-15% โดยจะเป็นราคาที่ใช้เซตมาตรฐานของตลาดตลอดปีนี้ และส่งผลสำคัญให้ตลาดเติบโตได้ดี โดยประเมินสัดส่วนยอดขาย แบ่งเป็นกลุ่มสันดาป 80% รถยนต์ไฟฟ้า 20% ด้านพฤติกรรมผู้บริโภค จัดไฟแนนซ์ 70% ซื้อเงินสด 30%